‘ซลาตัน’ อาจเซ็นกับผีอีกรอบตุลาคมนี้ หากสลัดอาการบาดเจ็บสำเร็จ

เดอะ ซัน รายงานว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดูท่าจะติดใจลีกผู้ดีและพร้อมที่จะกลับมาเซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ หากเขากลับมาฟิตอีกครั้งหลังจากเจ็บหนักในช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมา

ซลาตัน ในวัย 35 ปี บาดเจ็บรุนแรงที่หัวเข่าในเกมยูโรป้า ลีก กับ อันเดอร์เลชท์ ในเดือนเมษายน ซึ่งตัวเขานั้นหมดสัญญากับทีมปีศาจแดงหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในศูนย์ฝึกซ้อมของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาลงสนามให้เร็วที่สุด

โดยตอนนี้ ซลาตัน นั้นไร้สังกัด ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวเชื่อมโยงว่าเจ้าตัวอาจย้ายไปเล่นในเมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ ในสหรัฐอเมริกา แต่ล่าสุดสื่อจอมแฉแห่งเกาะอังกฤษอ้างว่า ซลาตัน นั้นพร้อมที่จะเซ็นสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่ออีกปีในเดือนตุลาคมนี้ เมื่อเจ้าตัวกลับมาอยู่ในสภาพฟิตอีกครั้ง

Cr   :   https://sport.mthai.com/football-inter/315392.html

ช็อตต่อช็อต! “คุนญา” เปิดใจผ่านรายการดัง,เหตุถูกต่อยเลือดอาบหน้า (มีคลิป)

ติอาโก คุนญา ดาวยิงบราซิลเลียน สโมสรชลบุรี เอฟซี ถูกเชิญออกรายการดังหลังเหตุฉาวปะทะกับ ผู้จัดการทีมราชบุรี มิตรผลฯ โดยหัวหอกฉลามชลชี้แจงเหตุที่วิ่งตามชายเสื้อดำต้องการถามว่าคุณชกผมทำไม ?

รายการ “คน เฝ้า ข่าว” ทางช่อง 3SD ออกกากาศเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้เชิญ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ผู้จัดการทีมชลบุรี เอฟซี และ ติอาโก คุนญา กองหน้าชลบุรี เอฟซี โดยมี “แชมป์” พีรพล เอื้ออารียกูล” เป็นพิธีกรรายการ โดยหัวหอกแซมบ้า ชลบุรี เอฟซี เปิดเผยครั้งแรกผ่านรายการว่า

“ผมแค่พยายามจะเล่นกับเขา (ธนวัชร์ นิติกาญจนา) ตอนแรกผมคิดว่าเขาเข้าใจ แต่หลังจากนั้น เขาใช้มือตบศีรษะผม ทำให้ผมรู้ว่าเขาไม่ได้เล่นด้วย”

“คุณเห็นในคลิปไหม ตอนที่ผมสาดน้ำไป ผมยังยิ้มอยู่เลย และอ้าแขนขวาออกมาเพื่อที่จะโอบเขา และเตรียมที่จะกอด ซึ่งเขาก็ยิ้มตอบกลับมา ตอนแรกผมยังคิดว่าเขาเล่นด้วยกับผม เพราะเขายังพูดกับกรรมการว่าทำไมไม่แจกใบเหลืองคุนญา แต่เขาพูดไปยิ้มไปนะ ผมเลยคิดว่าเขาคงต้องการเล่นกับผม พอหลังจากนั้น ผมก็เลยรู้ว่าเขาไม่ตลกกับผมด้วย”

ขณะที่ การ์ดชกนั้น คุนญา และวิ่งไล่ตามนั้น หัวหอกฉลามชล เผยว่า “ผมคิดว่าเขาน่าจะใส่แหวนหรืออะไรสักอย่าง เพราะหมัดไม่ได้แรงมาก ตอนที่ผมวิ่งไปหาเขา (การ์ด) ผมอยากจะถามว่า คุณมาต่อยผมทำไม ผมไม่เข้าใจจริงๆ ซึ่งผมไม่ได้มีอะไรกับเขา เพราะผมก็ไม่รู้จักเขา ผมสามารถวิ่งไล่เขาได้ทันนะ แต่ผมหยุดวิ่ง แล้วดูที่เขาทำกับผมสิ”

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ มีผลการพิจารณา ดังนี้
1.Mr.THIAGO CUNHA มีความผิดตามข้อ 1.12 (1)ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไปและห้ามเข้าสนาม 2 นัด และปรับเงิน 30,000 บาท (โดยไม่นับรวมกับโทษใบแดงที่ได้รับจากผู้ตัดสิน)
2.นายธนวัชร นิติกาญจนา มีความผิดตามข้อ 2.9 (1) ปรับเงิน 60,000 บาท และ ห้ามทำหน้าที่ 3 เดือน
3.นายธนวัชร นิติกาญจนา มีความผิดตามข้อ 2.3 พักการทำหน้าที่ 1 นัด (หลังจากแบนครบ 3 เดือน)
4.ลงโทษสโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี กรณีบกบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (2) ปรับเงิน 100,000 บาท
5.ให้สโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี ส่งแผนรักษาความปลอดภัย ฉบับใหม่ ภายใน 15 วัน

Cr   :   https://sport.mthai.com/football-thai/315409.html

เข้มงวด,จริงจัง! ธีราทรเปิดใจหลังร่วมงาน “ราเยวัช” เป็นครั้งแรก

ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวถึง มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเซอร์เบีย หลังมีโอกาสร่วมงานกันในทีมชาติไทยครั้งแรก ในการเตรียมพร้อมลุยศึกชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2560

ดาวเตะวัย 27 ปี จำเป็นต้องถอนตัวออกไปในเกมล่าสุดหลังสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ก่อนถูก มิโลวาน ราเยวัช เรียกเข้ามาติดทีมอีกครั้ง ขณะที่ ธีราทร ให้สัมภาษณ์หลังผ่านการฝึกซ้อมวันที่ 3 ว่า

“ดีใจที่มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติอีกครั้ง”

“ตอนนี้ก็เข้ามาเรียนรู้แท็คติคจากโค้ช ก็ยังไม่มีโอกาสคุยส่วนตัวอะไร แต่เท่าที่ดูก็เหมือนว่าเขาเป็นโค้ชที่จริงจัง เข้มงวดเวลาฝึกซ้อม และค่อนข้างจิตวิทยาดีกับผู้เล่น ถือเป็นเรื่องที่ดี”

“ธีราทร” ที่คว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งล่าสุด กล่าวต่อ “ผมมีโอกาสดูทีมชาติไทยใน 2 เกมล่าสุด เห็นชัดว่าทุกคนมีวินัยการเล่นมากขึ้นกว่าเดิม เล่นได้ดีทั้งในเกมกับ อุซเบกิสถาน และ ยูเออี ส่วนผมแม้เพิ่งมีโอกาสซ้อมกับโค้ช แต่ 3 วันที่ผ่านมาก็พอเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร โดยเฉพาะเรื่องเกมรับ ที่เขาเน้นว่าให้รักษาตำแหน่งตัวเองให้ดี”

“แน่นอนว่าคิงส์คัพเป็นรายการที่สำคัญมากๆ ผมอยากให้ทุกคนกระหายที่จะลงเล่นรายการนี้ ถึงใครจะเคยได้แชมป์ซูซูกิคัพ หรือ ซีเกมส์ มาก่อน แต่มันจะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าในฐานะนักฟุตบอลทีมชาติไทย คุณไม่เคยได้แชมป์คิงส์คัพ ดังนั้นผมอยากให้ทุกคนมุ่งมั่นกับถ้วยนี้ มากกว่าทุกถ้วยที่ผ่านมา”

“สุดท้ายผมอยากฝากถึงแฟนบอลไทยให้เข้ามาเชียร์กันเยอะๆ แม้สตาร์ในทีมจะน้อยกว่าเดิม แต่ทุกคนที่เหลือก็พร้อมลงเล่นกันอย่างเต็มที่ พิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลไทยยอมรับ ก็หวังว่าจะเข้ามาสู้ไปพร้อมพวกเรา และบรรยากาศในทีมตอนนี้ก็ดีมากๆ”

“ส่วนตัวถ้ามีโอกาสลงเล่นก็พร้อมช่วยทีมเต็มที่เหมือนเดิม” ธีราทรปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย จะย้ายจาก เกียรติธานี คันทรี คลับ ไปเก็บตัวที่โรงแรมโรงแรมดิเอมเมอรัลด์ (รัชดา) ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ก่อนพบกับ ทีมชาติเกาหลีเหนือ ในรอบแรก วันที่ 14 กรกฎาคมนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวีช่อง 32

Cr   :   https://sport.mthai.com/football-thai/315419.html

เอลแบร์ แนะเยาวชนไทยสู้ขาดใจถ้าอยากค้าแข้งยุโรป ชี้ตำแหน่งฟูลแบ็คมีลุ้นมากที่สุด

หลังจากงานเปิดตัว อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ เมื่อวันอังคารที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา โจวานนี่ เอลแบร์ ตำนานดาวยิงชาวบราซิลของ บาเยิร์น มิวนิค ได้นั่งพูดคุยกับ MThai Sport โดยให้คำแนะนำกับแข้งเยาวชนไทยที่มีความฝันอยากไปค้าแข้งต่างแดน พร้อมชี้ว่าตำแหน่งที่เวทีลูกหนังยุโรปกำลังขาดอยู่ในตอนนี้ก็คือฟูลแบ็ค ซึ่งถ้าแข้งไทยมีความสามารถมากพอก็มีลุ้นเบียดเล่นอาชีพได้เลย

จากที่คุณได้แชร์ประสบการณ์กับน้องๆ เยาวชนไทยว่าการออกไปเล่นต่างประเทศจะมีอุปสรรคหลายอย่างให้ต้องฟันฝ่า คิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราผ่านมันไปได้ด้วยดี?
ข้อเดียวเท่านั้น คือการทำงานอย่างหนัก สู้อย่างสุดชีวิต เพราะโอกาสที่นักเตะจะได้รับการเชิญให้ไปทดสอบฝีเท้า ได้ไปเล่นในยุโรปนั้น มีเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนคนที่ไปกันทุกวัน เพราะฉะนั้นเมื่อคุณได้รับโอกาสแล้วก็จะต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ ข้อนี้ข้อเดียวเท่านั้นทะลุผ่านทั้งหมด

สรีระของนักเตะไทยค่อนข้างเสียเปรียบผู้เล่นยุโรปพอสมควร คิดว่าตรงจุดนี้จะเอาอะไรไปสู้กับเขาได้?
ในเรื่องของฟุตบอลแล้ว ไม่ว่าคุณจะสูงหรือเตี้ย จะผิวดำหรือผิวขาว ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ให้ดูอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ตัวเขาเล็กขนาดนั้น เขายังได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีมาตั้งกี่สมัยแล้ว ดังนั้นแล้วฟุตบอลไม่มีตัวเล็กหรือตัวใหญ่ มันอยู่ที่ความสามารถในสนามแข่งขันเท่านั้น ผลงานสิ่งที่ปรากฏในสนามนั่นแหละคืออาวุธที่สำคัญที่สุดของนักเตะทุกคน ดังนั้นการที่จะแจ้งเกิดได้หรือไม่นั้นก็อยู่ที่ความสามารถการเล่นในสนามล้วนๆ ดูอย่างนักเตะระดับโลกที่เขาตัวเล็ก แต่เขามาถึงจุดนี้ได้ นั่นคือตัวอย่างที่ดี

ถ้าให้ระบุแบบเจาะจงไปเลยว่าตำแหน่งการเล่นไหนที่นักเตะไทยมีโอกาสลุ้นมากที่สุดที่จะไปค้าแข้งอาชีพในยุโรปได้ คิดว่าเป็นตำแหน่งไหน?
ถ้าให้เลือกคงจะเป็นแบ็คซ้ายหรือไม่ก็แบ็คขวา ดูตัวอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม เขาตัวเล็กแต่ก็วิ่งขึ้นวิ่งลงตลอด มันต้องเติมตรงนี้เข้าไป ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ยังขาดอยู่ในยุโรป ที่เก่งๆ เป็นระดับโลกแล้วถือว่าหาได้น้อยมาก ดังนั้นถ้าถามว่านักเตะไทยจะไปเล่นที่ยุโรป โอกาสที่จะเกิดได้มากที่สุดใน 11 ตำแหน่ง จึงคิดว่าน่าจะเป็นแบ็คซ้ายกับแบ็คขวา แต่ก่อนจะถึงตรงนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการต้องมีลีกที่แข็งแกร่งภายในประเทศให้ได้เสียก่อน ตั้งแต่ระดับสูงสุดไล่ลงมาจนถึงเยาวชน เพราะมันจะเป็นการคัดกรองนักเตะโดยธรรมชาติไปจนถึงขั้นสูงสุด ที่บราซิลก็ใช้ระบบนี้แล้วประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นถ้าจะให้แนะนำสำหรับประเทศไทย ผมคิดว่าจะต้องมีลีกเยาวชน ต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ นักเตะเยาวชนสำคัญมาก พวกนี้คือนักเตะทีมชาติในอนาคต

สุดท้ายนี้คิดว่าจะต้องใช้เวลาสักกี่ปีที่นักเตะไทยจะมีโอกาสไปเล่นในยุโรปได้หลายคนเหมือนอย่างญี่ปุ่น?
ตัวอย่างของญี่ปุ่นแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าพวกเขาพัฒนาขึ้นมาจากเยาวชนอย่างที่ว่า จะใช้เวลา 5 ปี 10 ปี หรือนานกว่านั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าลีกเยาวชนนั้นมีอย่างจริงจังหรือยัง ดังนั้นถ้าจะถามว่าอีกกี่ปีคงจะบอกไม่ได้ เพราะทุกอย่างมันต้องใช้เวลา ไม่สามารถเกิดขึ้นภายในชั่วข้ามคืนได้

สำหรับ โจวานนี่ เอลแบร์ นั้นเดินทางมาประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมโครงการ อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ ซึ่งจะคัดเอานักเตะเยาวชนไทยทั่วประเทศไปร่วมฝึกซ้อมและคัดเลือกหาตัวแทนไปเข้าแคมป์ต่อในระดับเอเชีย ก่อนที่จะลุ้นไปสู่ระดับโลกที่สนาม อลิอันซ์ อารีน่า รังเหย้าอันโด่งดังของ บาเยิร์น มิวนิค ต่อไป

 Cr   :   https://sport.mthai.com/football-inter/315414.html