FANBALL168

เปิดตัวกันไปแล้วสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่คนที่ 3 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นอดีตศิษย์เก่าของโจเซ่ มูริญโญ่อย่างเนมานย่า มาติชนั่นเอง

เชื่อว่าจริงๆแล้วแฟนบอลของแมนฯยูไนเต็ดหลายคนอาจจะรู้สึกเซอร์ไพรส์กับดีลนี้อยู่ไม่น้อย ไม่ใช่เพราะไม่เคยสนใจ แต่มีข่าววนเวียนอยู่มาตั้งแต่ก่อนหน้าที่กุนซือชาวโปรตุกีสจะเข้ามารับงานในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ผลุบๆโผล่ๆบนหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้ง จนคิดว่าไม่น่าจะได้ แต่จู่ๆก็มีรูปพี่แกหลุดใส่เสื้อซ้อมของทีมถ่ายเซลฟี่ ก่อนที่จะปิดดีลกันทันทีหลังจากนั้นแค่ 2 วัน

เรียกเลยว่าหน้าตาเฉย !

นี่จึงเป็นการกลับมาร่วมกันอีกครั้ง แต่ในนามของสโมสรใหม่ของทั้ง มูริญโญ่ และ มาติช หลังจากทั้งคู่เคยพาทีมเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกมาครองได้เมื่อ 2 ปีก่อน

ก่อนหน้านี้ “ปีศาจแดง” มองหามิดฟิลด์ตัวกลางเข้ามาเสริมทีมอยู่โดยตลอด เนื่องจากซีซั่นที่ผ่านมาปล่อยทั้งบาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์และมอร์แกน ชไนเดอแลงน์ออกไปจากทีม รวมถึงความโรยราของไมเคิ่ล คาร์ริค แม้ว่ามารูยาน เฟลไลนี่จะทำผลงานได้ดีขึ้นจนครองใจแฟนๆหลายคน แต่ถ้านับกันตามหน้างานจริงๆ สกิลของ “พี่ฟู” ไม่สามารถช่วยยกระดับให้กับทีมได้

นี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไม มูริญโญ่ ถึงต้องประเคนเงิน 40 ล้านปอนด์(ว่ากันตามข่าว)ยื่นให้กับทาง “สิงห์ไฮโซ” เพื่อแลกตัวดาวเตะชาวเซิร์บคนนี้มาร่วมทีม

ตรงนี้เองจึงเป็นประเด็นต่อเนื่องให้แฟนบอลผู้ชื่นชอบกระแทกคีย์บอร์ดสร้างสีสันบนโลกโซเชี่ยลว่า “แพงอิ๋บอ๋าย” หรือ “ไม่คุ้ม” เมื่อเทียบกับการที่ได้ตัวนักเตะที่ "เป็นส่วนเกิน" ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมในฤดูกาลใหม่ของอันโตนิโอ คอนเต้ แถมอายุยังปาเข้าไป 29 ปีแบบหมาดๆด้วย

จึงเกิดสงครามน้ำลายย่อมๆกันขึ้นระหว่างแฟนบอลของทีมอื่นและบรรดา “เร้ด อาร์มี่” ถึงดีลที่เกิดขึ้นนี้

ว่าแต่ แมนฯยูไนเต็ดไม่คุ้มจริงๆหรือกับดีลในครั้งนี้ ?

ส่วนตัวผมแล้ว ยังไม่ขอบอกถึงความคุ้มไม่คุ้ม เพราะอะไรน่ะหรอ ? แหม ยังไม่ได้สัมผัสบนบนผืนหญ้าภายใต้การกลายร่างมาเป็น “ปีศาจแดง” สักวินาที ครั้นจะให้บอกว่าคุ้มหรือไม่คุ้มอันนี้ก็คงจะใช้พลังมโนเยอะไปหน่อย

แต่ถ้าถามว่าดีลนี้จำเป็นสำหรับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในยุคที่กำลังเหยียบคันเร่ง ตบเกียร์สุด เพื่อกลับไปทวงความยิ่งใหญ่บนแผ่นดินอังกฤษให้ได้อีกครั้งแล้วนั้น ตอบเลยว่า โคตรจำเป็น !

อย่างที่เคยสรุปไปเมื่อครั้งก่อนแล้วนะครับว่า เป้าหมายของแมนฯยูไนเต็ดในซีซั่นที่จะถึงนี้คือการก้าวขึ้นไปเป็นทีมลุ้นแชมป์แบบเต็มตัว โดยหวังถึงตำแหน่งแชมป์เป็นโบนัส การยกระดับทีมและแก้ไขจุดที่ยังต้องปรับปรุงคืองานหลักในช่วงก่อนเปิดซีซั่น
ุ
นั่นคือสาเหตุของการมาของโรเมอู ลูกากู รวมทั้งวิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ(แม้ว่าพี่แกจะยังดูไว้ใจไม่ค่อยได้ก็เถอะ)ในตำแหน่งที่ขาด รวมทั้งตัว มาติช เองนี่ก็ด้วย

ถึงอายุจะค่อนข้างเยอะ แต่มาแบบชงกินได้เลยไม่ต้องรอ เพราะเล่นอยู่ในพรีเมียร์ ลีกอยู่แล้ว พร้อมพกสถิติดีเยี่ยม ด้วยการเข้าสกัดและตัดบอลมากว่า 540 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมาและแม้ว่า คอนเต้ จะเลือกหานักเตะหน้าใหม่มาแทนที่เขาเพื่อแผนในอนาคต แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือกำลังหลักสำคัญที่ช่วยให้ เชลซี คว้าแชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้ว

หลายคนอาจจะบอกว่า มาติช ไม่ได้อยู่ในฟอร์มพีคเหมือนอย่างสมัยที่ติดทีมยอดเยี่ยมเมื่อฤดูกาล 2014-15 แล้ว แถมยังเล่นไม่หวือหวามากที่ควร แต่จะว่าไปนี่แหละคือสิ่งที่แมนฯยูฯชุดนี้ต้องการมากที่สุด เหมือนอย่างที่มีไมเคิ่ล คาร์ริคที่เล่นได้ไม่โดดเด่นแต่แน่นอนคอยคุมจังหวะให้กับทีมและมีส่วนสำคัญแทบทุกนัดที่ลงสนาม

“ปีศาจแดง” ชุดนี้ไม่ได้ต้องการกองกลางที่มีลูกเล่นแพรวพราวเพื่อที่จะให้มาโชว์แข่งกับปอล ป็อกบาที่ขยันโชว์อยู่แล้ว แต่ต้องการนักเตะที่จะเข้ามาช่วยเสริมความสมดุลให้กับเกมตรงกลางสนาม ตัดเกมได้ดี ออกบอลง่ายไม่หวงและผลักดันให้ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ได้มีอิสระในการทำเกมอย่างเต็มที่

ส่วนเรื่องแพงเกินไปหรือไม่นั้น พูดก็พูด จะเอาอะไรมากกับตลาดรอบนี้กันครับ ? ทีมใหญ่ซื้อ-ขายนักเตะกันไม่ต้องถามว่าใครก็แทบจะเริ่มต้นกันที่ 30-40 ล้านปอนด์อยู่แล้ว ฉะนั้นสำหรับผมเรื่องเม็ดเงินที่ลงทุนไปนั้นตัดไปได้เลย

มันเป็นเรื่องของโอกาสและการตัดสินใจในการเลือก มาติช เข้ามาร่วมทีมเสียมากกว่า ว่าเขาจะทำได้อย่างที่หวังหรือไม่ มีส่วนร่วมในการพาทีมไล่ล่าเป้าหมายมากมายแค่ไหนในซีซั่นนี้

แล้วเรื่องคุ้มหรือไม่คุ้ม ไว้ปิดซีซั่นนี้แล้วค่อยว่ากันอีกทีก็ยังไม่สายครับ …

----------------------------------------------------------

Cr : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1532693